top of page

Toxic Leadership

ภาวะผู้นำ 8 ประเภทที่ลูกน้อง (ไม่) อยากเจอ

Toxic Leadership.jpg

“เหนื่อยงานพอทน เหนื่อยคนพอเลย” 

 

       วลีนี้อาจฟังดูตลก แต่กลับเป็นตลกร้ายที่สะท้อนความจริงอันแสนเจ็บปวดในที่ทำงานได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อปัญหาที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยไม่ใช่งาน แต่เป็น "คน" ที่เราต้องร่วมงานด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่หัวหน้าหรือผู้นำทีมกลายเป็นต้นตอของความเครียดในแต่ละวัน 

       จากงานวิจัยพบว่า ผู้นำที่มีพฤติกรรมเป็นพิษ (Toxic Leadership) เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้พนักงานเกิดภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) ซึ่งนอกจากจะทำลายสุขภาพจิตแล้ว ยังบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย 

       แล้วผู้นำแบบไหนที่เข้าข่ายว่าเป็นพิษ? วันนี้เราขอพาคุณมารู้จักกับ 8 ประเภทผู้นำที่ลูกน้องอยากตีตัวออกห่าง พร้อมแนวทางเบื้องต้นในการรับมือกับความ Toxic เหล่านี้ 

       
1. The Scatterbrain (ฟุ้งไปเรื่อย): 
มีความกระตือรือร้นสูงแต่ไม่มีความชัดเจนในการสื่อสารหรือทิศทางการทำงาน เปลี่ยนใจบ่อย จนทำให้ลูกทีมรู้สึกสับสนและเสียเวลาไปกับการปรับตัวตลอดเวลา 

       วิธีรับมือ: พยายามจดบันทึกสิ่งที่ตกลงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และทบทวนเป้าหมายกับหัวหน้าเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจตรงกัน 

       2. The Lone Wolf (หมาป่าเดียวดาย): ชอบทำงานคนเดียว ไม่แชร์ข้อมูล ไม่เปิดรับความคิดเห็น และมักจะวัดความสำเร็จที่ผลงานของแต่ละคนมากกว่าความพยายามโดยรวมของทีม 

       วิธีรับมือ: คอยสนับสนุนให้เกิดการทำงานเป็นทีมและสร้างระบบการสื่อสารที่ชัดเจน เช่น รายงานความคืบหน้า หรือจดบันทึกการมีส่วนร่วมของทีม เพื่อให้เห็นผลงานที่แท้จริง 

       3. The Airhead (ยัยปลาทอง): ขี้ลืม ประชุมเสร็จผ่านไปไม่ถึงวันก็ลืมแล้ว ส่งผลให้ทีมต้องทำงานซ้ำซ้อนและเสียเวลาไปกับการตามเตือน 
       วิธีรับมือ: ใช้เอกสารหรือช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการ เช่น อีเมล หรือการประชุมที่มีบันทึกการประชุม เพื่อกันลืมและมีหลักฐานอ้างอิง

       4. The Loudmouth (เก่งแต่ปาก): เสียงดัง พูดเยอะ แต่ไม่ลงมือจริง เน้นการโชว์ผลงานแต่ไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทำให้ทีมขาดแรงจูงใจในการทำงาน 
       วิธีรับมือ: โฟกัสที่เป้าหมายของตัวเอง และสร้างผลงานที่จับต้องได้ แทนที่จะหวังการยอมรับจากผู้นำประเภทนี้

       5. The Two-Face (สองบุคลิก): หัวหน้าประเภทนี้เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ทำให้ลูกทีมไม่กล้าเข้าหา ไม่กล้าถาม ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในโหมดไหน ส่งผลให้การสื่อสารคลาดเคลื่อนและความร่วมมือภายในทีมลดลง 
       วิธีรับมือ: พยายามเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสื่อสาร คอยสังเกตอารมณ์ของหัวหน้าในแต่ละวัน หากเป็นเรื่องสำคัญ ควรใช้ช่องทางการสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้มีความชัดเจนและลดความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นจากอารมณ์เฉพาะหน้า 

       
6. The Micromanager (ผู้จัดการไปทั่ว): จู้จี้ ตรวจงานทุกขั้นตอน สั่งงานจุกจิกที่ไม่จำเป็นจนรบกวนตารางงานในแต่ละวัน ส่งผลให้ลูกน้องเกิดความเครียดและประสิทธิภาพการทำงานลดลง 
       วิธีรับมือ: แสดงความสามารถในการจัดการงานด้วยตนเองให้เห็น และเสนอแนวทางที่สามารถอัปเดตความคืบหน้าโดยไม่ต้องถูกรบกวนบ่อย ๆ 


       7. The Drama Queen (ดราม่าตัวแม่): เสพติดความดราม่า อารมณ์แปรปรวนและขึ้กังวลมากเกินไปจนทำให้บรรยากาศภายในทีมตึงเครียดอย่างไม่รู้ตัว 
       วิธีรับมือ: หลีกเลี่ยงการเข้าไปมีส่วนร่วมกับอารมณ์เหล่านั้น โฟกัสเฉพาะข้อเท็จจริงในบทสนทนา 


       8. The Dictator (จอมบงการ): ผู้นำเผด็จการที่สั่งอย่างเดียว ไม่เปิดรับความคิดเห็น และให้ความสำคัญกับอำนาจมากกว่าความร่วมมือภายในทีม 
       วิธีรับมือ: หากยังต้องทำงานร่วมกัน พยายามทำความเข้าใจกรอบที่เขาต้องการ และสื่อสารอย่างมีเหตุผลโดยใช้ข้อมูลสนับสนุน 

       แม้ว่าเราจะไม่สามารถเลือกหัวหน้าได้ แต่เราสามารถเลือกวิธีรับมือเพื่อรักษาพลังใจและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับตัวเองได้ การทำความเข้าใจกับความเป็นผู้นำที่เป็นพิษในรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือและยังสามารถเติบโตในสายงานของตัวเองได้อย่างมั่นคง

#Howtochangeth #H2C #ChangeManagement #ToxicLeadership

อ้างอิง: https://blog.jobstore.com/2020/03/11/8-types-of-toxic-boss-that-you-should-know-about/, https://www.mdpi.com/3096716

27 March 2025

bottom of page