ทุกปัญหามีทางแก้ ด้วย
Fishbone Diagram

‘ทุกปัญหามีทางออกเสมอ’
แต่เคยสังเกตไหมว่าทำไมบางปัญหาถึงแก้ไม่จบเสียที? พอแก้เรื่องหนึ่งเสร็จ ก็ต้องไปตามแก้อีกเรื่องต่อ แม้จะลองมาหลายวิธี ปัญหาก็ยังวนกลับมาเหมือนเดิม
เป็นเพราะปัญหานั้นแก้ยากจริง ๆ หรือแท้จริงแล้ว เราแค่ยังแก้ไม่ตรงจุด?
การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ที่มาของปัญหาก่อนว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องมี เครื่องมือมาช่วยให้การวิเคราะห์เป็นระบบ และหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่สามารถช่วยได้ก็คือ ‘Ishikawa Diagram’ หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ ‘Fishbone Diagram’
Fishbone Diagram เป็นแผนภูมิที่มีหน้าตาคล้ายก้างปลา ซึ่งใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหากับสาเหตุของปัญหา โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. หัวปลา: ปัญหาที่เกิดขึ้น
2. ก้างปลาใหญ่: สาเหตุหลักของปัญหา ซึ่งสามารถจัดหมวดหมู่ได้ตามลักษณะงาน เช่น สายการผลิต ใช้หลัก 5M1E (Man, Material, Machine, Method, Measurement, Environment) หรือสายการตลาด ใช้หลัก 4P (Product, Price, Place, Promotion)
3. ก้างปลาเล็ก: สาเหตุรองหรือปัจจัยย่อย ซึ่งเราสามารถใช้ ‘5 Whys Analysis’ เพื่อเจาะลึกต้นตอของปัญหาได้ ด้วยการถามคำถามว่า "ทำไม?’ ซ้ำ ๆ อย่างน้อย 5 ครั้ง
วิธีใช้งาน Fishbone Diagram
1. ระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไข: เขียนปัญหาที่พบไว้ที่หัวปลา
2. วิเคราะห์สาเหตุหลัก: ระดมสมองเพื่อระบุสาเหตุหลักของปัญหา และจัดหมวดหมู่เป็นก้างปลาใหญ่
3. วิเคราะห์สาเหตุย่อย: ใช้ 5 Whys Analysis เพื่อหาสาเหตุเชิงลึก และเติมรายละเอียดในก้างปลาเล็ก
Fishbone Diagram เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของปัญหาอย่างเป็นระบบ และเมื่อใช้ร่วมกับ 5 Whys Analysis ก็จะช่วยให้เราสามารถเจาะลึกไปถึงสาเหตุที่แท้จริง และแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น
วิเคราะห์สาเหตุให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยลงมือแก้ไข เชื่อเถอะว่า เมื่อเราแก้ตรงจุด ปัญหาก็จะไม่กลับมาอีก
#Howtochangeth #H2C #ChangeManagement #FishboneDiagram #5Whys
https://www.disruptignite.com/blog/5-whys-or-why-why-analysis
6 March 2025



